รอบรู้ ฮวงจุ้ยประตูบ้าน เปิดรับความรำ่รวยเต็มๆๆ

         ตำแหน่งประตูบ้านที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย ประตูบ้านเปรียบเสมือนเกราะป้องกันให้กับบ้านและผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้าน เปรียบเสมือนแขนที่ไว้คอยอ้ารับสิ่งต่างๆที่จะเข้ามาภายในบ้าน เป็นทางผ่านของทั้งคนและพลังงานชี่ รวมถึงโชคลาภและโอกาสดีดีในชีวิต หรือพลังลมที่พัดพาพลังงานดีๆเข้ามาภายใน เปรียบเหมือนปากของมังกรที่คอยอ้าปากกินโชคลาภที่จะเข้ามาภายในบ้านแล้ว ประตูบ้านถือว่ามีบทบาทมากที่สุดในการที่จะนำโชคลาภเข้ามาภายในบ้าน ฉะนั้นเรามาดูกันว่า ประตูบ้านที่จะนำโชคลาภเข้ามาภายในบ้านนั้นเป็นแบบไหนกันบ้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้พลังงานที่ดีไหลผ่านเข้าบ้านได้อย่างดี

 

ภาพประกอบจาก pinteres

1.ประตูรั้วตรงประตูบ้าน

     เปิดรั้วมาแล้วเจอประตูบ้าน ในเเง่ของหลักฮวงจุ้ยแล้ว หากประตูบ้านตรงกับประตูรั้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี และไม่เหมาะกับการเป็นที่อยู่อาศัย เพราะจะส่งผลให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันกับเพื่อนบ้าน คนในบ้านไม่สามัคคีกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลา ตำแหน่งที่ดีทางฮวงจุ้ย คือ ประตูบ้านจะต้องอยู่เฉียงกันกับประตูรั้วจึงดี อีกทั้งรั้วบ้านที่ดีตวรเป็นรั้วโปร่งที่จะช่วยให้กระแสลมซึ่งเป็นพลังงานชี่ที่ดี พัดผ่านได้อย่างดีมากกว่ารั้วแบบทึบมากๆ

2.ทิศทางของประตูบ้าน

      การกำหนดทิศทางของประตูนั้น ตามหลักของฮวงจุ้ยถือเป็น       เรื่องที่สำคัญ เพราะทิศทางที่เหมาะสมของประตูบ้านควรอยู่ทางทิศใต้จะดีที่สุด เพราะทิศใต้ถือเป็นทิศของทรัพย์ หรือโชคลาภตามหลักฮวงจุ้ย นอกจากนี้ยังเป็นทิศทางลมที่ดีตลอดปีอีกด้วย

3.ประตูบ้านไม่ควรอยู่ตรงกับบันไดบ้าน

      ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้ว ตำแหน่งของบันไดบ้านต้องไม่อยู่ตรงกับประตูบ้าน เพราะตามความเชื่อทางฮวงจุ้ยนั้นเชื่อว่าจะเป็นผลเสียต่อผู้ที่อยู่อาศัย ทำให้ต้องพบเจอกับสิ่งที่เป็นอันตรายจนอาจรุนแรงถึงขั้นเจ็บหนักโดยไม่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆล่วงหน้าได้ ความเจริญรุ่งเรืองขึ้นๆลงๆ ชีวิตโลดโผนเกินไป ทางที่ดีไม่ควรตั้งประตูบ้านไว้ตรงกันกับประตูเข้าบ้านหลักหรือประตูประธาน อาจแก้ไขโดยใช้ฉากกั้นหรือตู้โชว์ ปิดบังไว้เป็นการแก้ไขได้อีกทางหนึ่ง

4.จัดหน้าบ้านให้โล่งก่อนเข้าประตูบ้าน

       บ้านแต่ละบ้านมักจะมีการจัดออกแบบให้บริเวณทางเข้าบ้านเป็นสนามหรือมีพื้นที่โล่งปลอดภัยสวยงาม เพราะจากตำราตามหลักฮวงจุ้ยได้กล่าวไว้ว่า บริเวณที่โล่งหน้าประตูบ้าน หรือที่เรียกว่าตำแหน่งเหม่งตึ๊งเปรียบเสมือนลานรับพลัง หน้าประตูบ้านไม่ควรมีสิ่งที่จะมาปิดบัง อย่างเช่นต้นไม้ใหญ่ บริเวณหน้าประตูที่ดีจะต้องให้แสงแดดสามารถสาดส่องเข้าไปถึงมีลมพัดผ่านได้ดี บ้านนั้นจะได้รับแต่สิ่งดีๆเข้ามา ทางเข้าบ้านควรจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยไม่มีสิ่งของวางระเกะระกะ เปิดให้เดินเข้าบ้านได้อย่างสะดวกโยธิน เพราะหลักฮววจุ้ยของประตูคือการเปิดทางใก้กับพลังชี่ หรือพลังลมที่ดีไหลเวียนได้อย่างสะดวกอย่างสบาย

 

ภาพประกอบจาก pinteres

5.ประตูห้องน้ำไม่ควรอยู่ตรงกับเตียงนอน

       กลางเตียง และปลายเตียง บ้านที่มีขนาดใหญ่ มักจะมีการออกแบบให้ห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน และหากประตูห้องน้ำตั้งอยู่ตรงกับเตียงนอน กลางเตียงหรือปลายเตียง นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ ไม่ถูกสุขอนามัย เพราะความชื้นจะระเหยจากห้องน้ำมากระทบตัวของผู้นอนทุกคืน อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้แบบไร้สาเหตุ ดังนั้นจึงควรที่จะหลีกเลี่ยงที่ประตูห้องน้ำไม่ควรตรงกับเตียงนอน กลางเตียงหรือปลายเตียง

6.ตำแหน่งประตูบ้านที่ถูกหลักฮวงจุ้ย

         บ้านแต่ละขนาดก็จะมีหลักในการกำหนดตำแหน่งประตูที่แตกต่างกัน การวางตำแหน่งของประตูทางเข้าบ้าน ส่วนใหญ่แล้วมักจะวางไว้ที่ตรงกลาง และการตั้งไว้ที่ตรงกลางนั้นก็จะหมาะกับบ้านที่มีขนาดใหญ่ เพราะตามหลักฮวงจุ้ยได้กล่าวไว้ว่า กระแสชี่ที่วิ่งเข้ามาจากทางเข้า ห้ามชนกับตัวบ้าน แต่ถ้าหากว่าบ้านนั้นมีพื้นที่น้อย แล้ววางตำแหน่งประตูไว้ตรงกลางโอกาสที่กระแสชี่จะวิ่งเข้าชนกับตัวบ้านก็มีสูงฉะนั้นจึงควรพิจารณาให้ดีและเหมาะสม

7.ประตูบ้านควรเป็นแบบเปิดเข้า

        การที่จะกำหนดออกแบบประตูบ้านให้เป็นแบบเปิดเข้าหรือเปิดออกนั้นมักจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของบ้านแต่ละหลัง และในปัจจุบัน ประตูบ้านส่วนใหญ่มักจะถูกออกแบบให้เป็นแบบเปิดออกเพราะต้องมีการทำประตูเหล็กอีกหนึ่งชั้น แต่หากมองตามหลักของฮวงจุ้ยที่ถูกต้องได้กล่าวไว้ว่า การออกแบบประตูบ้านควรจะออกแบบประตูให้มีลักษณะแบบเปิดเข้าจะดีที่สุดเพื่อทุกครั้งที่เปิดจะรับได้เต็มๆทั้ง100%ไม่มีการผลักออกเลย อีกทั้งยังเป็นการแสดงความยินดีต้อนรับแขกผู้มาเยือน ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูง ส่งผลให้ทุกความสัมพันธ์ เป็นไปด้วยดีรักใครสามัคคีกันทำให้รู้สึกอบอุ่น ทุกคนอยากกลับบ้าน ทุกประตูภายในบ้านเองก็ควรเป็นแบบเปิดเข้าในทุกห้องด้วยเช่นกัน 

 

ภาพประกอบจาก pinteres

8.ประตูทางเข้าบ้านมีสองประตู

         โดยส่วนใหญ่แล้วประตูทางเข้าบ้านในแต่ละหลังจะมีทางเข้าบ้านเพียงหนึ่งทางเท่านั้น แต่ถ้าหากบ้านไหนมีทางเข้าบ้านมากกว่าหนึ่งทาง ควรคำนึงตามหลักของฮวงจุ้ย เพราะการกำหนดจำนวนของประตูทางเข้าบ้านนั้น มีความสำคัญมากและยังถือเป็นกฎข้อห้ามอีกข้อหนึ่ง ที่กล่าวไว้ว่า การมีประตูทางเข้าบ้านสองประตูนั้นเท่ากีบเป็นมังกรสองปาก จะทำให้เก็บทรัพย์ไว้ไม่อยู่ได้อาจทำประตูประธานให้มีขนาดที่ใหญ่กว่าอย่างชัดเจน หรือประตูที่ไม่ใช่ประตูหลักหรือประตูประธาน อาจทำธรณีประตูเพื่อกักทรัพย์อย่างดีไม่ให้ไหลออกทั่งหมดก็สามารถนำวิธีการนี้มาเป็นการแก้ไขได้ส่วนหนึ่งเช่นกัน

9.ประตูหลังบ้านตรงกับประตูหน้าบ้าน

       ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วตำแหน่งของประตูทางเข้าด้านหน้าบ้าน และด้านหลังของบ้าน ไม่ควรทำให้มองทะลุไปเห็นตรงกัน เนื่องด้วยพลังงานชี่ที่ดีที่เข้ามาจะเข้าและออกไปในทันทีโดยไม่ได้เก็บกักหรือสะสมพลังงานดีดีไว้ได้ แต่หากบ้านไหนที่ออกแบบผิดพลาดไปแล้ว เราสามารถแก้ไขตรงส่วนนี้ได้โดยการหาตู้โชว์มาวางกั้น หรือนำผ้าม่านแบบทึบหรือพาทิชั่นมากั้นไว้อีกชั้นก็จะช่วยเป็นการลดทอนการรั่วไหลของพลังงานได้อีกทางหนึ่ง เบี่ยงเบนหมุนเวียนพลังงานโดยรอบของภายในบ้านได้อย่างดี

10.ประตูบ้านไม่ควรมีเสาไฟฟ้าขวาง

       ตั้งหน้าบ้านเล็งกลางประตูพอดี เพราะอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านเกิดความทุกข์โศก ทำมาหากินหรือทำกิจการค้าเหนื่อยยากลำบาก  อยู่แล้วไม่มีความสุข เจ็บป่วยไข้ ควรย้ายเสาออกเสียหรือหาดย้ายไม่ได้ก็ควรย้ายประตูหน้าบ้านดีที่สุดจะทำให้ความทุกข์ดังที่กล่าวมาหายไป

 

ภาพประกอบจาก pinteres

        จำนวนบานประตูให้จำนวนเป็นเลขคู่ ตามหลักฮวงจุ้ยที่ถูกต้อง เลขคู่ถือเป็นเลขที่เป็นมงคลอย่างยิ่ง สังเกตได้จากความเชื่อของคนจีนซึ่งอันเป็นแหล่งกำเนิดของฮวงจุ้ย และขอให้เป็นประตูที่เเข็งแรง ปลอดภัย ทำจากไม้ที่สมบูรณ์ ไม่บวมหรือมีรอยแตกร้าว ห้ามชำรุดเด็ดขาด ประตูหน้าบ้านต้องสูงใหญ่โออ่าดูภูมิฐาน ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งดีไซน์ สีสัน แต่ต้องไม่ดูแปลกประหลาด ไม่มีสนิมเกาะ ลูกบิดไม่หลวมหลุดชำรุด หากคุณดูแลประตูหน้าบ้านเป็นอย่างดีพลังที่ดีมีคุณภาพก็จะถูกดูดเข้าไปในบ้าน เมื่อจัดวางประตูประธานหรือประตูที่ใหญ่ที่สุดจัดวางในตำแหน่งที่ดีแล้วก็ควรได้รับการใช้งานอยู่เสมอจึงดีที่สุด  เราพิจารณาประตูหลักหรือประตูประธานจากขนาดและการเปิดใช้เป็นประจำเกิดการเคลื่อนไหวของพลังงานหยางที่สุดนั่นเอง การเพิ่มเติมให้เกิดการไหลเวียนของพลังงานชี่ที่ดีในบ้าน อาจมีการวางโซฟาไว้ตรงส่วนหน้าบ้านเพื่อชลอความเร็วของกระแสชี่กระจายพลังงานไปได้ทั่วบ้านมากขึ้น อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกระจายพลังงานกระแสชี่ให้กระจายไปได้รอบบ้านคือแขวนคริสตัล หรือแชงกาเรียไว้ตรงกลางบ้านในส่วนทางเข้า เพื่อกระจายพลังงานกระแสชี่ให้กระจายไปรอบบ้านได้อย่างดีเลยทีเดียว